[SF] Lil kid (BobYun) - [SF] Lil kid (BobYun) นิยาย [SF] Lil kid (BobYun) : Dek-D.com - Writer

    [SF] Lil kid (BobYun)

    พี่กระต่ายของยูจิน -..-

    ผู้เข้าชมรวม

    2,330

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    2.33K

    ความคิดเห็น


    29

    คนติดตาม


    25
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 ธ.ค. 57 / 02:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    สำหรับนักอ่านคนใหม่ๆ ทุกเรื่องเป็น SF นะคะ ^_^

    จบในตอน ไม่จำเป็นต้องอ่านทุกตอนก็ได้จ้า

    ** แต่เพื่ออรรถรสที่ดี และถ้ามีเวลา..

    แนะนำให้ไล่อ่านตั้งแต่ตอนแรกเนาะ ฮี่ฮี่ :D
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      BOBBY x YUNHYEONG







      ติ๊งต่อง~ ติ๊งต่อง~

       

      กริ๊ก! ~

       

       

      “ยุนยองเปิดประตูแล้ว! เย่!” 

       

      ทันทีที่เปิดประตูต้อนรับแขกผู้มาเยือน เสียงเล็กก็ตะโกนแสดงอาการดีใจที่ได้เจอหน้าผมอย่างปิดไม่มิด ผมย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนจะกวาดแขนทั้งสองข้างอุ้มเด็กตัวเล็กขึ้นมาพร้อมทั้งโค้งตัวเคารพผู้ปกครองของน้องด้วย

       

       

      “ฝากตัวเล็กหน่อยนะยุนฮยองอ่า น้าติดประชุมจริงๆ เดี๋ยวค่ำๆจะมารับนะจ๊ะ”  สีหน้าบ่งบอกอาการกังวลเล็กๆของคุณน้าที่เป็นน้องสาวแท้ๆของแม่ส่งมาให้

       

      “สบายมากครับ ^_^

       

      “ยูจินอย่าดื้อกับพี่เค้าให้มากล่ะ ถ้าพี่ยุนฮยองมาฟ้องแม่ แม่ทำโทษหนูแน่ๆ”

       

      “ยุนยองไม่ฟ้องแม่หรอก ใช่มั้ยล่ะ?  ใช่มั้ยยุนยองงงง ห้ามฟ้องแม่นะ”  แขนเล็กเอื้อมมือมากำเสื้อผมเบาๆ แล้วเขย่าไปมาอย่างเอาแต่ใจ

       

      “นี่ยูจินอา..  เรียกชื่อพี่เค้ายังไม่ถูกเลย แม่อายนะเนี่ย”

       

      “หนูเรียกถูกนะ หนูเรียกถูกกกกกกกกก”

       

      “ไหนพูดซิ.. พี่ชื่ออะไรครับ?”

       

      .

      .

       

      “ยุน ยอง !

       

       

      ฮ่าๆ ผมกลั้นขำไม่อยู่กับความมั่นใจของยูจิน จำได้ว่าพยายามสอนน้องให้ออกเสียงเรียกชื่อผมตั้งแต่น้องยังไม่ถึงสามขวบ ตอนนี้ยูจินใกล้จะห้าขวบแล้วก็ยังเรียกเหมือนเดิมเลย

       

      เพราะเหตุผลที่ว่า..

      ฮยอง เค้ามีไว้ให้เด็กผู้ชายเรียกพี่ชาย

       

       

       

       

      “ยูจินอา..  นี่ยุนฮยอง หนูเรียกชื่อพี่เค้าซิลูก..”

       

      “ยุน.. โอปป้า”

       

      “เห?  ไม่ใช่นะ พี่เขาชื่อยุนฮยอง หนูต้องพูดว่า ยุนฮยองโอปป้าสิลูก”

       

      “ก็แม่บอกว่า ฮยองเอาไว้ให้เด็กผู้ชายพูดนี่คะ...”

       

       

      นับตั้งแต่นั้นมาน้องก็ไม่เคยยอมเรียกว่ายุนฮยองโอปป้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว ล่าสุดครั้งที่แล้วที่เจอกันคุณน้าพยายามบังคับให้เรียกชื่อผมให้ถูก แต่สุดท้ายก็ได้มาแค่...

       

       

      “ยุนยอง!”    ได้มาแค่นี้แหละแหละครับ 

       

      “หื้ม? ว่าไง?”   ขานตอบรับน้องไปอย่างนั้น เพราะตัวผมเองยังวางมือจากการนั่งเขียนรายงานไม่ได้เลย ได้แต่ปล่อยให้ยูจินนั่งดูการ์ตูนฆ่าเวลาไป

       

      “นี่รูปใครอ่ะ?...”

       

      “ไหน.. เอามาให้พี่ดูซิ-    เห้ยยยยย”   รูปคู่ที่ถ่ายกับเจ้าของห้องอีกคนโชว์หราอยู่บนไอแพดเครื่องบาง ก่อนหน้านี้มันวางอยู่บนเตียงดีๆนี่นา น้องไปหยิบมาตอนไหนล่ะนั่น

       

      “ข้างซ้ายนี่ยุนยองเค้าจำได้ แต่อีกข้างคือใครอ่ะ? เนี่ยๆๆ ฟันเหมือนกระต่ายที่อยู่ในกระเป๋ายูจินเลยนะ” มือเล็กจิ้มๆอยู่ที่ใบหน้าของอีกคนบนไอแพด ก่อนจะวิ่งไปหยิบตุ๊กตากระต่ายตัวโปรดออกจากกระเป๋าแล้วเอามาโชว์

       

       

      เออ..

      กระต่ายของน้องเหมือนบ๊อบบี้ฮยองจริงๆด้วย

       

       

      “อีกแป๊บนึงเดี๋ยวยูจินก็เจอ ถึงตอนนั้นยูจินก็ถามพี่เค้าเองนะ ว่าพี่เค้าชื่ออะไร โอเคมั้ย?”

       

      “ยุนยองบอกไม่ได้เหรอ?”  แววตาใสๆของยูจินส่งมาให้อ้อนจะเอาคำตอบ

       

      “ไม่ได้หรอก.. ความลับ”

       

       

      “ยุนยองขี้หวง! ไม่เล่นด้วยแล่วว แบร่~”  พูดเสร็จเด็กน้อยยูจินก็วิ่งหายออกไปนั่งประจำหน้าทีวีเหมือนเดิม มือเล็กนั่นไม่ยอมปล่อยกระต่ายตัวโปรดออกจากอ้อมแขนเลยตั้งแต่เอาออกมาโชว์คนเป็นพี่แบบผม

       

       

      เออจะว่าไป..

      พี่ก็ชอบกระต่ายนะ

      เผื่อยูจินจะยังไม่รู้.

       

       

       

       

       

       

                      สองขาก้าวยาวๆอย่างต่อเนื่องโดยจุดหมายปลายทางคือกลับห้องให้เร็วที่สุดเพราะตอนนี้อากาศข้างนอกหนาวเกินไป.. มือที่อยากจะเอาซุกเข้าไปในเสื้อโค้ทก็ทำไม่ได้เพราะมีถุงใส่ไอศกรีมถุงใหญ่ที่อีกคนฝากซื้อถือติดมือมาอยู่ เดินมาจนมั่นใจว่าถึงห้องตัวเองแล้ว แต่ก็ต้องหยุดคิดก่อนจะกดรหัสเข้าไปเพราะสายตาดันเหลือบไปเห็นรองเท้าผ้าใบของผู้หญิงสีน่ารักวางอยู่หน้าห้อง..

       

       

      นี่ห้องผม ไม่ผิดแน่..

      แต่รองเท้านี่ของเด็กที่ไหนเนี่ย?

       

       

      .

      .

       

      .

       

      “ยุนยองงงงงงงงงงงงง พี่กระต่ายมาแล้ววววววววววว”    เสียงเล็กๆของเด็กผู้หญิงตะโกนเรียกยุนฮยองให้ออกมาฟังดูสนิทสนมเหมือนน้องสาวเรียกพี่ชายไม่มีผิด แล้วไหนจะเรียกผมว่าพี่กระต่ายนั่นอีก ฮ่าๆๆ เด็กคนนี้น่ารักจริงๆเลย แต่ติดอยู่เรื่องเดียวเลยคือ น้องเป็นใครกันแน่?

       

       

      “....น้องเป็นใครเหรอครับ?”   เดินเข้าไปนั่งยองๆข้างโซฟาตัวยาวที่คนตัวเล็กที่สุดในห้องนี้จับจองเป็นพื้นที่ของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้วพลางถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุด

       


      “เค้าเหรอ?  เค้าเป็นน้องยุนยองไงง ลูกพี่ลูกน้องน่ะ พี่รู้จักคำนี้หรือเปล่า?”

       

      “อ๋า.. รู้สิ ทำไมพี่จะไม่รู้เล่า”  ผมได้แต่กลั้นขำกับท่าทีเชิดๆของเด็กน้อยที่อวดว่าตัวเองรู้จักศัพท์ยากๆคำนั้น  จะว่าไปนิสัยก็เหมือนยุนฮยองเหมือนกันนะเนี่ย

       

      “แล้วพี่กระต่าย ชื่ออะไร?”

       



      “คิก..”     เสียงหัวเราะดังมาจากอีกด้านหนึ่ง มองไปก็เจอคุณหมอคนเก่งที่สภาพแต่งตัวสบายๆกำลังมองมาทางนี้พร้อมขยิบตาให้ผมทีนึง เหมือนกับว่าอย่าเพิ่งบอก เพราะอีกคนยังอยากแกล้งน้องต่อ

       



      “อ้าว.. ก็พี่กระต่ายไง ยุนฮยองบอกมาแบบนี้ไม่ให้เหรอ?”

       

      “ไม่นะ ยุนยองไม่บอกอะไรเลย ยุนยองขี้หวงมากๆๆๆ แค่ชื่อยังไม่อยากให้ยูจินรู้เลย”  เด็กน้อยยู่หน้าพร้อมเอามือกอดอกแน่น พลางมองข้ามไหล่ผมไปส่งสีหน้าคาดโทษให้คนขี้หวง

       

      “แล้วหนูชื่อยูจินเหรอครับ..?”  ถือวิสาวะเอื้อมมือไปลูบผมน้องเบาๆ

       

      “ใช่แล้ว..  พี่กระต่ายต้องมีชื่อสิ บอกมานะ ห้ามขี้หวงเหมือนยุนยองเด็ดขาด!

       

      “ฮ่าๆๆ ก็ได้ พี่ชื่อคิมบับ..”    นั่น.. ยังไม่หยุดแกล้งน้องอีก

       

      “เห? คิมบับเหรอ?  จริงๆเหรอ?..  ยุนยองชอบกินเค้าจำได้! ตอนอยู่บ้านยุนยองแย่งเค้ากินตลอดเลย”

       


      “....”

       


      “เค้ารู้แล้วว่าทำไมถึงหวง เพราะยุนฮยองชอบกินคิมบับนี่เอง เย่ๆ เค้าเก่งจังง~ ผมได้แต่ยิ้มกว้างให้ยูจินที่เปิดเผยข้อมูลลับให้ผมได้รู้ ก่อนจะหันขวับไปหาคนที่ยูจินอ้างว่าชอบกินคิมบับนักหนา..

       

       



      รายนั้นก็เอาแต่ก้มหน้าลอบยิ้มให้กับพื้นอยู่นั่นแหละ

      อย่าคิดว่ามองไม่เห็นนะ

      แก้มแดงๆนั่นน่ะ.

       

       

       

      “คิมบับโอปป้า.. เค้าอยากกินไอติมนี่อ่ะ”  เสียงเล็กดังขึ้นเรียกให้ผมหันกลับไปสนใจ พร้อมทั้งชี้ๆไปที่ถุงไอศกรีมถุงใหญ่บนโต๊ะ

       

      “ไม่ได้นะ อากาศเย็นขนาดนี้ พี่ไม่ยอมให้กินแน่ๆอ่ะ ป่วยขึ้นมาทำไง คุณน้าดุพี่ชัวร์”  ยุนฮยองเดินมาหยิบถุงไอศกรีมของตัวเองออกไปจากโต๊ะหน้าโซฟา ยูจินมองตามถุงนั่นไม่กระพริบ ก่อนที่ยุนฮยองจะเดินเอาไปใส่ช่องแช่แข็งของตู้เย็นเอาไว้

       

      “ยุนยองเป็นหมอ... เค้าป่วยยุนยองก็เอายามาสิ เค้ากินยาเป็นนะ เค้าเก่งกว่ายุนยองตั้งเยอะ”  ผมรู้สึกเข้าข้างคนอื่นมากกว่ายุนฮยองก็วันนี้แหละครับ น้องยูจินน่ารักจริงๆนะ ฮ่าๆ

       

      “ไม่เด็ดขาด”

       

      “ไม่รักแล่วววว  ฮือ..  ฮึก..”   เห็นเด็กน้อยทำท่าจะร้องให้ ผมเลยเอื้อมมือไปอุ้มร่างเล็กนั่นขึ้นบ่าก่อนจะปลอบประโลมโดยการลูบหลังเบาๆ

       

      “ชู่วว~ ยูจินไม่ร้องนะ.. เดี๋ยวให้ยุนฮยองไปทำงาน แล้วเราแอบมากินไอติมกัน ตอนนี้หยุดร้องก่อนครับ..”  กระซิบเสียงเบาให้ได้ยินแค่ผมกับยูจินเท่านั้น  เพียงแค่นั้นก็ดูเหมือนเสียงร้องของน้องเบาลงเรื่อยๆ

       

       

       

      “ไม่รักพี่แล้วจริงๆเหรอ? คิมบับโอปป้าใจดีกว่ายุนยองใช่ไหมล่ะ..”  หลังจากเงียบอยู่นาน อีกคนก็เริ่มทวงตำแหน่งพี่ชายคนดีคืนแล้วล่ะครับ ได้ยินแบบนั้นยูจินที่กอดผมอยู่ก็ขืนตัวออกมาแล้วลงเดินไปหาพี่ชายคนเดิม ก่อนจะเอื้อมมือเล็กไปจับมือคนเป็นพี่ แล้วพาเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะหนังสือเหมือนเดิม

       

      “ยุนยองทำงานนะ เค้าจะเป็นเด็กดีไม่งอแงแล้ว..”

       

      “รักพี่ก่อน”

       

      “รักอยู่แล้ววววว  เค้าให้ยุนยองที่หนึ่งเล้ยยย”  ยุนฮยองหันมายักคิ้วอวดความเป็นที่หนึ่งของตัวเองให้ผมนึ่งที น่าหมั่นไส้จริงๆเลย

       

      “แล้วคิมบับล่ะ..? ให้ที่เท่าไหร่ ที่สุดท้ายใช่ไหม?”  แหนะ.. ยังไม่เลิกนะ รู้แล้วน่าว่าเป็นที่หนึ่งของยูจินน่ะ

       

      “คิมบับโอปป้าเหรอ...”   ยูจินน้อยหันมาที่ผม พลางเอียงคอมองอย่างใช้ความคิด..  

       

      “....”

       

      “ยุนยองแบ่งที่หนึ่งให้คิมบับด้วยนะ..”

       

      “ไม่เอาอ่ะ”

       

      “ยุนยองก็ชอบกินคิมบับนี่นา..”

       

      “....”

       



      “ชอบคิมบับอีกคนจะเป็นไรไป นะๆแบ่งที่ให้คิมบับอยู่ด้วย..”

       

       

       

       

                      ความจริงนี่ก็ไม่ค่อยมีสมาธิทำงานเท่าไหร่... นั่นก็เพราะอีกคนเอาแต่พาน้องวิ่งเล่นไปมาอยู่รอบห้อง ไหนจะช่วยยูจินต่อตัวต่อที่น้องอุตส่าห์หอบมาจากบ้านจนเสร็จ แบบนั้นเจ้าตัวยิ่งติดพี่ชายคนใหม่ไปกันใหญ่ พอทั้งสองคนหายออกไปจากห้อง ผมถึงได้หันหน้าเข้ารายงานต่ออย่างช่วยไม่ได้..

       

       

      ก็พอมองคิมบับฮยองอยู่กับเด็กแบบนี้มันก็เพลินดีนี่นา..

       


      ผมได้แต่รีบจัดการงานตรงหน้าให้เสร็จก่อนเวลาอาหารเย็น เพราะต้องป้อนข้าวน้องก่อนที่คุณน้าจะมารับกลับ ขืนปล่อยให้เล่นจนลืมกินข้าวผมว่ามันไม่ดีแน่ คิดได้แบบนั้นเลยรีบเขียนประโยคสุดท้ายของรายงานให้เสร็จ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วย่างเท้าออกไปหาคู่หูพี่น้องคู่นั้นที่ห้องนั่งเล่น

       

       

      ภาพที่เห็นคือคนเป็นพี่กำลังป้อนไอศกรีมถ้วยใหญ่ให้น้อง ส่วนคนเป็นน้องก็ดูมีความสุขกับของหวานเย็นเฉียบตรงหน้าซะเหลือเกิน นี่พูดไปไม่ฟังกันบ้างเลยใช่ไหม..

       

       

      “อ่ะแฮ่ม..” 

       

      ยูจินหันขวับมาพร้อมเบิกตากว้าง แล้วเอาช้อนไอศกรีมซ่อนไว้ด้านหลังก่อนที่จะแลบลิ้นขึ้นมาเลียริมฝีปากเบาๆ เพื่อกลบเกลื่อนความผิดที่เปื้อนอยู่บนปากนั่น

       

      “....”

       

      “กินไรกัน?”

       

      “กินไอติมไง.. ยุนทำงานเสร็จแล้วเหรอ?  มาๆ มานั่งกินด้วยกันดิ...”   ยังอีกนะ.. ทำเป็นมาชวนกลบเกลื่อน น้องป่วยขึ้นมาจะทำยังไง คิมบับฮยองนี่จริงๆเลย

       

      “ช่ายยย มากินด้วยกันนะยุนยองงงง”

       

      “มานี่เลยตัวแสบ พี่บอกว่าไง?”  เอื้อมมือทั้งสองข้างดึงรั้งตัวเล็กให้เข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะอุ้มยูจินด้วยมือเพียงข้างเดียว พลางยู่หน้าใส่น้องหนึ่งที

       

      “โธ่.. ยุนยองไม่โกรธสิ..  เอางี้นะ เมื่อกี้คิมบับป้อนไอติมเค้าด้วย”

       

      “แล้ว?”

       

      “คิมบับบบบ ป้อนไอติมยุนยองหน่อยย ง้อๆให้หน่อย ยุนยองโกรธเค้า”  สายตาเจ้าเล่ห์จากพี่ชายอีกคนของยูจินมองมาที่ผม พลางตักไอศกรีมก้อนใหญ่มาจ่อตรงหน้า

       

       

       

      “ฮยองมันก้อนใหญ่ไป.. กินไม่ได้”

       

      “ยุนยองไม่เก่งเลยอ่ะคิมบับโอปป้า” เสียงเล็กของคนในอ้อมแขนแย้งขึ้น

       

      “เห็นมั้ย.. ยูจินบอกว่านายไม่เก่งเลย”  ในเมื่อต้องโชว์ความเป็นพี่ชายคนเก่งที่น้องให้เป็นที่หนึ่ง เลยต้องเอาปากงับช้อนไอติมลูกใหญ่นั่นเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้ ก็บอกแล้วว่ามันใหญ่... ดูดิเลอะเทอะไปหมด เลอะไปหมดเลยจริงๆให้ตาย

       

      “ยุนยองงงงง เลอะหมดแล้วนะ! ไปเช็ดเลย เค้าไม่ให้อุ้มแล้ว”  ยูจินผลักผมออกเบาๆ ผมเลยจำเป็นต้องปล่อยน้องลงกลับไปนั่งที่โซฟาเหมือนเดิม แต่ก่อนที่จะเดินไปหยิบทิชชู่หน้ากระจกก็รู้สึกเหมือนโดนมือใหญ่ของอีกคนรั้งไว้

       

       

      “หื้ม?”  ถามพลางเลิกคิ้วขึ้นสงสัย

       



      “พี่เช็ดให้...”  ไม่พูดเปล่า บ๊อบบี้ฮยองวางถ้วยไอศกรีมลงบนโต๊ะ แล้วลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนจะดึงรั้งข้อมือให้ผมเข้าไปใกล้ๆ สัมผัสแผ่วเบาที่มุมปาก.. มือหยาบจัดการเช็ดรอยเปื้อนทุกอย่างออกจนหมด

       


      “...ขอบคุณครับ..”

       


      “ถ้ายูจินไม่อยู่ พี่คงใช้อย่างอื่นเช็ด..”

       


      “อะไรเล่า..”

       


      “ก็ถ้าน้องไม่อยู่พี่จะ-....”

       

       



      “คิมบับบบบบ อุ้มมมมม~ เสียงของยูจินดังแทรกขึ้นมาระหว่างบทสนทนาเล็กๆของพวกผมซะก่อน แต่ก็ขอบคุณเพราะอีกคนจะได้เลิกใช้สายตาแบบนั้นมองมาซะที..

       



      มัน..

      เห้อ...

      จะบอกว่าจนป่านนี้ยังเขินกันอยู่ นี่จะผิดมั้ย?

       

       

       


      ติ๊งต่อง~ ติ๊งต่อง~

       

       

      “โอ๊ะ.. หม่ามี๊มาแล้วแน่เลยๆ  ยุนยองงง เปิดประตูหน่อย”   ยูจินออกคำสั่งทั้งที่ยังอยู่บนอ้อมแขนบ๊อบบี้ฮยองไม่ยอมห่าง สงสัยน้องจะติดฮยองมากจริงๆแฮะ

       

      “รักพี่ก่อนเร็ว ไหนๆก็จะกลับแล้วอ่า”

       

      “ยุนยอง มานี่....”   ผมเดินเข้าไปหาน้องอย่างว่าง่าย แล้วยูจินก็ยื่นปากมาจุ้บเบาๆลงบนปากผม ซึ่งเราทำแบบนี้บ่อยๆ ตอนที่ผมยังอยู่บ้าน พอเข้ามหาลัยแล้วก็ไม่ค่อยได้กลับบ้านเลย.. แล้วการจากลาครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่.. อ่า.. รู้สึกคิดถึงซะแล้วสิ

       

      “อย่าซนนะรู้ไหม ป่ะ.. กลับได้แล้ว”

       

      “ยูจินรักพี่ด้วยสิครับ..”   มือที่กำลังจะเอื้อมไปบิดลูกบิดประตูถึงกับชะงัก เพราะอีกคนดูท่าจะอ้อนน้องเอาเรื่องอยู่เหมือนกันเลย แถมน้องยังใจดีกดจูบลงบนแก้มขาวๆของตำแหน่งพี่ชายคนดีที่หนึ่งอีกคน(?)อีกด้วย

       

      “ยูจินรักทุกคนเล้ยยยย เย่ๆ^^”  ตอนนี้บ๊อบบี้ฮยองคนดีปล่อยน้องลงเดินแล้ว ยูจินสะพายกระเป๋าเป้ขึ้นหลัง มือข้างหนึ่งหอบกระต่ายตัวโปรด ส่วนอีกข้างถือตัวต่อที่ช่วยกันต่อกับบ๊อบบี้ฮยองเมื่อตอนบ่ายไว้แน่น ก่อนจะส่งยิ้มกว้างมาให้พวกเรา พร้อมกันนั้นผมก็ได้เปิดประตูต้อนรับคุณน้าคุณแม่ของยูจินด้วย

       

       

      “อ่า.. ขอโทษที น้ามาช้าไปนิดนึงนะยุนฮยอง”  ผู้หญิงวัยทำงานอายุสามสิบต้นๆกำลังขอโทษขอโพยที่มารับตัวเล็กช้า ก่อนจะย่อตัวลงไปอุ้มลูกสาวคนเดียวขึ้นมาบนบ่า รายนั้นก็เอาแต่โบกมือไปมาให้พี่ชายทั้งสอง

       

      “ไม่เป็นไรครับ วันหลังแวะมาอีกนะ ผมคิดถึงน้องจะแย่”

       

      “ฮ่าๆ  แล้วนี่ยูจินไปซนอะไรมากมายรึเปล่าลูก หื้ม?”

       

      “ไม่นะ..  ไม่เชื่อคุณแม่ถามยุนยอง กับ คิมบับได้เลย!

       

      “ฮ่าๆๆ เดี๋ยวแม่ไปแอบถามเองก็ได้ ป่ะกลับกันเถอะเรา..  ยุนฮยองน้ากลับนะ.. เอ่อแล้วก็..”

       

       

       

      “คิมจีวอนครับ”   คนเป็นพี่ส่งยิ้มให้ผู้ใหญ่ตรงหน้า ก่อนจะโค้งตัวลงทำความเคารพ

       

      “อ่า.. ขอบคุณที่ช่วยดูแลน้องนะจ๊ะ”

       

      “สบายมากครับ^^ ...ใช่มั้ยยูจิน? ฮ่าๆ”

       

      “ใช่!!!  พี่ๆใจดีที่สุดเลยยย เค้ากลับแล้วน้า~ บ้ายบาย~

       

       

       

       

                      ส่งยูจินกลับบ้านเสร็จ หมอตัวเล็กก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาท่าทีหมดแรง นี่ก็ไม่รู้ว่าหมดแรงจากการที่ต้องดูแลยูจิน หรือหมดแรงเพราะรายงานเล่มใหญ่ที่เพิ่งเขียนเสร็จกันแน่.. แต่น่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่าเพราะเรื่องยูจินผมออกจะเป็นคนที่อยู่กับน้องมากกว่าด้วยซ้ำไป

      .

      .

       

      “ย่าห์! เย็นนนน”  ส่งถ้วยไปไอศกรีมที่ยังละลายไม่หมดไปแนบแก้มคนที่กำลังจะหลับตาพริ้มเพียงเบาๆ อีกคนก็ถึงกับสะดุ้งเลยทีเดียว

       

      “กินดิ ไม่มีน้องแย่งละเนี่ย”

       

      “ในตู้เย็นยังเหลือมั้ยอ่ะ... แค่นี้จะไปพออะไร”

       

      “ฮ่าๆ เสียใจนะยุนฮยองคนดี ..ของอร่อยหมดแล้วครับ”

       

      “ฮยองล้อเล่นเหรอ!???”  ยุนฮยองลุกพรวดขึ้นมาทำท่าจะเอามือฟาดลงบนต้นแขน ดีที่ผมรวบข้อมือบางนั่นไว้ทัน

       

      “ล้อเล่นอะไรล่ะ.. น้องนายก็กินเก่งเหมือนนายนั่นแหละ นี่ถ้วยสุดท้ายละ อ่ะ.. อ้าปากก”

       

      “....”

       

      “อ้ามมม.. อ้าปากสิ..”

       


      “...มันใหญ่อ่ะ..”    ปากบอกว่ามันใหญ่แต่ก็ยอมเอาปากบางๆนั่นงับลงมาบนช้อนอยู่ดี แบบนี้มัน..

       

      .

      .

       

       

      “เลอะเลย”

       


      “อ้อไอ้ไอ(ก็ใช่ไง)”

       

       

       

      “พี่ว่าต้องเช็ดปากแล้วล่ะ...”

       

       

       

       

      ฮยอง..




      ใครสอนให้เช็ดแบบนี้

      ทำไมมันเปื้อนกว่าเดิม.

       

       

       

       

      END.

       

       

      Special:

       

       

      “คุณแม่คะ.. คิมบับโอปป้าเป็นอะไรกับยุนยองเหรอคะ?”

       

      “หื้ม?  คิมจีวอนอ่ะเหรอ..”

       

      “คนที่หน้าเหมือนกระต่าย เนี่ยๆๆ เหมือนตัวนี้อ่ะ”  ลูกสาวช่างพูดพยายามอธิบาย พลางยกตุ๊กตากระต่ายตัวโปรดขึ้นมาให้ดูด้วย

       

      “อ๋อ..  เป็นแฟนยุนฮยองโอปป้าของเราละมั้ง แม่ไม่แน่ใจนะ..”

       

      “แฟนคืออะไรคะ?”

       

      “คนรักไงลูก รักกันดูแลกันอะไรแบบนี้”

       

      “อ๋อ.. หนูเข้าใจแล้ว..”

       

      “....”

       

      “งั้นหนูก็เป็นแฟนยุนยองงงงง เป็นแฟนคิมบับโอปป้าด้วย เพราะพี่ๆรักหนู ดูแลหนูด้วย เย่!

       

       

      END.

       




      ยูจิน... มาเคลียกับพี่ก่อนไหม พี่ไม่ยอมนะ55555555 

      บางคนอาจถามว่า ยูจินนี่ใช่ ยางยูจินลูกสาวประธานYGมั้ย? 

      ตอบเลยว่าใช่ ถถถถถถถถถถ

       

      แล้วก็... เค้าไม่ได้หายไปไหนนะ

      แค่โดนมรสุมไฟนอลพัดเข้าลูกใหญ่T_T

      สอบเสร็จ 18 ธ.ค. นะคะ รออีกหน่อยนะ *รั้งขา*

       

      ใครขอ BJIN , JunHyuk ไว้ในทวิต อย่าเพิ่งเสียใจไป เดี๋ยวตามมา

      ใจเย็นๆนะคะ 55555555555 เราแพ้คนขี้ยุจะตายไป #อุ๊บบบบ -x-

       

      ใครสะดวกเม้น ก็มาเลยยยย จัดมา ^____^

      ใครสะดวกแท็ก เชิญเลยครับ  #ฟิคสามหมอ

       

      รักนะ. ไปอ่านหนังสือละ -3-

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×